การจำนำ
สัญญาจำนำ คือสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้จำนำส่งมอบสังหาริมทรัพย์ให้แก่บุคคลอีกคนหนึ่งเป็นผู้ครองครองเรียกว่า ผู้รับจำนำเพื่อประกันการชำระหนี้ ทรัพย์สินที่จำนำได้คือ ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนที่ได้เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ช้าง ม้า โค กระบือ และเครื่องทอง รูปพรรณ สร้อย แหวน เพชรเป็นต้น
ตัวอย่างเช่นนาย ก. กู้เงินนาย ข.จำนวน 50,000 บาท เอาแหวนเพชรหนึ่งวงมอบให้นาย ข. ยึดถือไว้เป็นประกันการชำระหนี้เรียกว่า นาย ก. เป็นผู้จำนำ และนาย ข. เป็นผู้รับจำนำ ผู้จำนำอาจเป็นบุคคลภายนอกเช่น ถ้าแทนที่นาย ก. จะเป็นผู้ส่งมอบแหวนเพชรให้กับเจ้าหนี้กลับเป็นนาย ค.ก็เรียกว่าผู้จำนำ ผู้จำนำไม่จำเป็นต้องเป็นลูกหนี้เสมอไป
ผู้รับจำนำต้องระวัง :
ผู้จำนำต้องเป็นเจ้าของทรัพย์ คือมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่จำนำ ใครอื่นจะเอาทรัพย์ของเขาไปจำนำหาได้ไม่เพราะฉะนั้นถ้ายักยอกยืมหรือลักทรัพย์ของเขามาหรือได้ทรัพย์ของเขามาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายประการอื่นแล้วนำไปจำนำเจ้าของอันแท้จริงก็ย่อมมีอำนาจติดตามเอาคืนได้โดยไม่ต้องเสียค่าไถ่เพราะฉะนั้น ผู้รับจำนำต้องระวังควรรับจำนำจากบุคคลที่รู้จักและเป็นเจ้าของทรัพย์เท่านั้นมิฉะนั้นอาจจะเสียเงินเปล่าๆ
สิทธิหน้าที่ผู้รับจำนำ :
เมื่อรับจำนำแล้วทรัพย์สินที่จำนำก็อยู่ในความครอบครองของผู้รับจำนำตลอดไปจนกว่าผู้รับจำนำจะรับคืนไปโดยการชำระหนี้ในระหว่างนั้น
ผู้รับจำนำมีหน้าที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่จำนำบางประการ :
1. ต้องเก็บรักษาและสงวนทรัพย์ที่จำนำให้ปลอดภัย ไม่ให้สูญหาย หรือเสียหายเช่นรับจำนำแหวนเพชรก็ต้องเก็บในที่มั่นคง ถ้าประมาทเลินเล่อวางไว้ไม่เป็นทางการคนร้ายลักไป อาจจะต้องรับผิดได้
2. ไม่เอาทรัพย์ที่จำนำออกใช้เอง หรือให้บุคคลภายนอกใช้สอย หรือเก็บรักษามิฉะนั้นถ้าเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้นก็ต้องรับผิดชอบเช่น เอาแหวนที่จำนำสวมใส่ไปเที่ยวถูกคนร้ายจี้เอาไปก็ต้องใช้ราคาให้เขา
3. ทรัพย์สินจำนำบางอย่าง ต้องเสียค่าจ่ายในการบำรุงรักษา เช่น จำนำสุนัขพันธ์ดีโคกระบือหรือม้าแข่ง อาจจะต้องเสียค่าหญ้า อาคารและยารักษาโรคผู้จำนำต้องชดใช้แก่ผู้รับจำนำมิฉะนั้นผู้รับจำนำก็มีสิทธิยึดหน่วงทรัพย์ที่จำนำไว้ก่อนไม่ยอมคืนให้จนกว่าจะได้ชำระหนี้ครบถ้วน
การบังคับจำนำ :
เมื่อหนี้ถึงกำหนดลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ ผู้รับจำนำก็มีสิทธิบังคับจำนำได้คือ
1. เอาทรัพย์สินที่จำนำออกขายทอดตลาดคือกระทำได้เองไม่ต้องขออำนาจซึ่งตามตามธรรมดาก็ให้บุคคลซึ่งมีอาชีพทางดำเนินธุรกิจขายทอดตลาดผู้รับจำนำจะต้องบอกกล่าวเป็นหนังสือไปยังลูกหนี้ก่อนให้ชำระหนี้และหนี้ที่เกี่ยวข้องกันเช่น ดอกเบี้ย ค่ารักษาทรัพย์ที่จำนำ เป็นต้น ภายในเวลาอันควร
2. ถ้าผู้รับจำนำจะไม่บังคับตามวิธีที่ 1 เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เพื่อไถ่ถอนทรัพย์ที่จำนำคืนไปเจ้าหนี้ผู้รับจำนำจะยื่นฟ้องต่อศาลให้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่จำนำก็ย่อมทำได้ไม่มีอะไรห้าม
ข้อสังเกต
1. เงินที่ได้จากการขายทอดตลาดต้องนำมาชำระหนี้พร้อมด้วยอุปกรณ์ คือค่าใช้จ่ายต่างๆถ้ามีเงินเหลือก็คืนให้แก่ผู้จำนำไป เพราะว่าเป็นเจ้าของทรัพย์ ถ้าเจ้าหนี้หลายคนผู้รับจำนำก็มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น
2. เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้แล้วคู่สัญญาจะตกลงกันให้ทรัพย์สินที่จำนำตกเป็นของผู้รับจำนำก็ย่อมทำได้ถือว่าเป็นการชำระหนี้ด้วยของคนอื่นแต่จะตกลงกันเช่นนี้ในขณะทำสัญญาจำนำหรือก่อนหนี้ถึงกำหนดหาได้ไม่